วันนี้ได้อ่านบทความของคุณกระต่ายในดวงจันทร์เกี่ยวกับการดินสอและการเขียน ได้แง่คิดดีๆที่จะเก็บไว้สอนนาฟต้าหลายอย่าง ในบทความกล่าวไว้ว่า
"สิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือมีราคาแพงที่สุดเสมอไป ดินสอมีไว้เพื่อเขียนเท่านั้น และสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ดินสอของเราสวยแค่ไหน แต่อยู่ที่เราสามารถใช้ดินสอจดบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์ได้มากแค่ไหนต่างหาก เด็กๆ ควรได้รับการสอนให้รู้จักเปรียบเทียบและเลือกใช้ของที่เหมาะสมกับสถานะของตนเอง"
ชุดเครื่องเขียนของนาฟต้า ดินสอ 2 แท่ง ดินสอสี 24 สี สีเทียน 12 สี ไม้บรรทัด กรรไกร กบเหลาดินสอ (หลังจากจบบทความนี้ก็คงจะไม่มีเพิ่มไปอีกนานจนกว่าที่มีอยู่จะหมดสภาพการใช้งานครับ) |
ในบทความยังเปรียบเทียบเด็กที่มาจากโรงเรียนวัดกับโรงเรียนดีๆอื่นๆอีกด้วยว่า
"ระหว่างเด็กที่โรงเรียนวัดมีดินสอแท่งเดียวมาโรงเรียนกับเด็กโรงเรียนดีๆที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนในกล่องดินสอใบใหญ่ มีปากกาลบคำผิด สีไม้อีกร้อยกว่าแท่ง กับปากกาไฮไลท์อีก 48 สี ดูแล้วอาจเป็นการศึกษาที่แตกต่างกันเหมือนอยู่คนละประเทศ แต่สำหรับความรู้ในการอ่านออกเขียนได้ ความเข้าใจในสิ่งที่ดีที่ควร หรือจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีในสังคม ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กๆของเรามีความเข้าใจแตกต่างกันหรือไม่"
ยิ่งบทความช่วงหลังๆที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งคือเด็กสมัยนี้แทบไม่ได้เขียนอะไรด้วยตนเองเป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้ว เพราะมีครูคอยทำเอกสารการสอนให้เสร็จสรรพ แม้แต่ผู้ใหญ่ที่ทำงานกันอยู่ทุกวันนี้ ก็แทบไม่ได้มีโอกาสได้จับดินสอหรือปากกาเขียนหนังสือด้วยตัวเองกันซักเท่าไร ผู้เขียนยังทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บปวดด้วยว่า
"อีกหน่อยการเขียนภาษาไทยด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดอาจกลายเป็นงานจิตรกรรมแขนงหนึ่งก็เป็นได้"
แต่ในท้ายที่สุดผมก็ยังคงคิดว่าการที่เด็กๆมีเครื่องเขียนคุณภาพดีตามสมควร ครบถ้วนในจำนวนหนึ่งอย่างพอเพียงก็ย่อมส่งผลต่อการเรียน เขียน และสร้างสรรจินตนาการได้ดีกว่า ไม่มีเลย หรือมีอย่างขาดแคลนครับ และส่วนที่หนักใจผมมากที่สุดคือ เราจะสอนเด็กๆของเราให้รู้จักคำว่าพอเพียงกับดินสอที่มี รวมไปถึงพอเพียงกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนมีได้อย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น