วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องของดินสอ

วันนี้ได้อ่านบทความของคุณกระต่ายในดวงจันทร์เกี่ยวกับการดินสอและการเขียน ได้แง่คิดดีๆที่จะเก็บไว้สอนนาฟต้าหลายอย่าง ในบทความกล่าวไว้ว่า 

"สิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือมีราคาแพงที่สุดเสมอไป ดินสอมีไว้เพื่อเขียนเท่านั้น และสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ดินสอของเราสวยแค่ไหน แต่อยู่ที่เราสามารถใช้ดินสอจดบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์ได้มากแค่ไหนต่างหาก เด็กๆ ควรได้รับการสอนให้รู้จักเปรียบเทียบและเลือกใช้ของที่เหมาะสมกับสถานะของตนเอง"  

ชุดเครื่องเขียนของนาฟต้า
ดินสอ 2 แท่ง ดินสอสี 24 สี สีเทียน 12 สี  ไม้บรรทัด กรรไกร กบเหลาดินสอ
(หลังจากจบบทความนี้ก็คงจะไม่มีเพิ่มไปอีกนานจนกว่าที่มีอยู่จะหมดสภาพการใช้งานครับ)
อ่านแล้วผมรู้สึกว่าเด็กๆสมัยนี้ยึดติดกับรูปลักษณะของสิ่งของมากกว่าประโยชน์จริงของมันเสียอีก 

ในบทความยังเปรียบเทียบเด็กที่มาจากโรงเรียนวัดกับโรงเรียนดีๆอื่นๆอีกด้วยว่า 

"ระหว่างเด็กที่โรงเรียนวัดมีดินสอแท่งเดียวมาโรงเรียนกับเด็กโรงเรียนดีๆที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนในกล่องดินสอใบใหญ่ มีปากกาลบคำผิด สีไม้อีกร้อยกว่าแท่ง กับปากกาไฮไลท์อีก 48 สี ดูแล้วอาจเป็นการศึกษาที่แตกต่างกันเหมือนอยู่คนละประเทศ แต่สำหรับความรู้ในการอ่านออกเขียนได้ ความเข้าใจในสิ่งที่ดีที่ควร หรือจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีในสังคม ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กๆของเรามีความเข้าใจแตกต่างกันหรือไม่" 

ยิ่งบทความช่วงหลังๆที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งคือเด็กสมัยนี้แทบไม่ได้เขียนอะไรด้วยตนเองเป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้ว เพราะมีครูคอยทำเอกสารการสอนให้เสร็จสรรพ แม้แต่ผู้ใหญ่ที่ทำงานกันอยู่ทุกวันนี้ ก็แทบไม่ได้มีโอกาสได้จับดินสอหรือปากกาเขียนหนังสือด้วยตัวเองกันซักเท่าไร ผู้เขียนยังทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บปวดด้วยว่า 

"อีกหน่อยการเขียนภาษาไทยด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดอาจกลายเป็นงานจิตรกรรมแขนงหนึ่งก็เป็นได้"


แต่ในท้ายที่สุดผมก็ยังคงคิดว่าการที่เด็กๆมีเครื่องเขียนคุณภาพดีตามสมควร ครบถ้วนในจำนวนหนึ่งอย่างพอเพียงก็ย่อมส่งผลต่อการเรียน เขียน และสร้างสรรจินตนาการได้ดีกว่า ไม่มีเลย หรือมีอย่างขาดแคลนครับ และส่วนที่หนักใจผมมากที่สุดคือ เราจะสอนเด็กๆของเราให้รู้จักคำว่าพอเพียงกับดินสอที่มี รวมไปถึงพอเพียงกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนมีได้อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น